วัดจันทาราม วัดท่าซุง อุทัยธานีเป็นเมืองรองที่ไม่ค่อยได้เห็น เมืองนี้ไม่เพียงแต่อบอุ่นแต่ยังมีวิถีชีวิตของชาวเมืองที่รุ่มรวยด้วยประเพณี วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อีกทั้งระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพทำให้การเดินทางไปมาจังหวัดนี้สะดวก แถมทุกย่านยังมีที่กิน ที่เที่ยว ที่พักน่าสนใจเพียบ สำหรับใครที่ชอบเที่ยวแบบช้าๆ ชิวๆ ไม่วุ่นวาย อุทัยธานีก็เป็นอีกเมืองที่น่าไปลอง
วันนี้พาไปเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานี เราก็มาถึงวัดท่าซุง (จันทาราม) ที่งดงามตระการตาด้วย ศิลปะแก้วเจียระไน เข้าวัดแล้วเหมือนสวรรค์บนดิน วัดท่าซุง เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดสุธมฺมธีรสฺโธ มาวัดนี้ ไม่ควรพลาด วิหารแก้ว 100 เมตร ใครไปวัดนี้ไม่ควรพลาดมาชมความงามภายในวัดนี้ สวยจริงๆ
รูปบริเวณทางเดินในวิหารแก้ว 100 เมตรที่ภายในวิหารสร้างด้วยโมเสกสีขาววาววับทั้งภายในและภายนอกวิหารดูสวยงามตระการตามากค่ะ วิหารแห่งนี้มีเวลาเปิด-ปิดด้วย โดยจะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ๆ 2 ช่วงเวลา คือตอนเช้า: เปิด 9.00 – 11.45 น. รอบบ่าย: เปิด 14.00 – 16.00 น.
ประวัติ วัดจันทาราม วัดท่าซุง
วัดจันทาราม วัดท่าซุง ตั้งอยู่ที่ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง อุทัยธานี เป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดอุทัยธานี อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด อุโบสถ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามในการตกแต่ง ประตูหน้าต่างด้านในเป็นรูปเทวดา จุดเด่นของวัดนี้คือวิหารแก้วสูง 100 เมตร เสาประดับด้วยโมเสกแก้วงดงามวิจิตรตระการตา และภายในวิหารมีผอบบรรจุ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นที่ศรัทธาและเคารพของประชาชน เดินเข้าไปด้านในมีพระพุทธรูปจำลองพระพุทธชินราชซึ่งระบุว่าเป็นพระประธาน มีหอคำอันงดงาม 3 ชั้น ที่ผู้คนจะมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ได้แก่ วิหารทองคำก่ออิฐถือปูนปิดทองประดับลวดลายไทย ด้วยความวิจิตรงดงามจึงถือเป็นที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด
ไปเที่ยวด้วยกันที่วัดท่าซุง
วัดท่าซุง วัดที่มีชื่อเสียงและสวยงามในจังหวัดอุทัยธานี ได้รับการพัฒนาและได้รับการยอมรับจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง พระราชมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย โดดเด่นด้วยวิหารแก้วครอบพระพุทธชินราชและลิงดำประดับทองอร่าม องค์ปราสาททองที่ไม่มีวันเน่าเปื่อย หลวงพ่อฤาสร้างด้วยอิฐปราสาททองฝีมือประณีต ประดับด้วยลวดลายไทย ปิดทอง ติดกระจก ใช้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปที่ญาติโยมนำมาถวายนอกปราสาท ใช้ทองคำเปลวปิดบริเวณรอบศาลเจ้า ภายในศาลเจ้า เป็นที่เก็บของสำคัญต่างๆ
ประวัติ ของวัดท่าซุง
วัดจันทาราม วัดท่าซุง อุทัยธานีเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่นมาก เที่ยวไทยสไตล์ Slow life city มาที่นี่ไม่มีเบื่อ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่น่าสนใจมากมาย ที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม จะมีที่เที่ยว
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2471 มอบให้กับวิซึงคำสิม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2482 วิซึงคสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร วัดจันทาราม ได้รับการตั้งชื่อตามอดีตเจ้าอาวาสชื่อจันทร์ เดิมเป็นทหารในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรซึ่งเสด็จกลับจากศึกที่เชียงใหม่ เขามาตามหาภรรยาไม่พบจึงฝากตัวไว้ที่วัด ต่อมากลายเป็นสมภาร คนมักเรียกว่า ” วัดท่าซุง ” เพราะเคยเป็นจังหวัดอุทัยธานีมาก่อน มีป่าไม้มาก มีไม้ซุงมากมาย โดยเฉพาะบริเวณวัดที่เป็นแพล่องไปตามลำน้ำ พ.ศ. 2332 หลวงพ่อใหญ่ออกธุดงค์ ปักกลด ชาวบ้านท่าซุงมีศรัทธามาก ได้นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าซุงแห่งนี้
ตั้งชื่อตามอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุงหรือวัดจันทารามจันทร์ (สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทหารชื่อจัน กลับมาจากรบที่เชียงใหม่เพื่อตามหาภรรยาไม่พบจึงไปบวชที่วัด ต่อมาได้สมภาร ท่านได้เปลี่ยน ชื่อวัดว่า วัดจันทาราม หลังธารสมภาร หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนชอบเรียกกันว่า วัดท่าซุง เนื่องจากในอดีตจังหวัดอุทัยธานีมีป่าไม้มากจึงมีการขนส่งไม้ซุงไปลงที่สะพานแม่น้ำสะแกกรัง
ไหลผ่านบริเวณวัดท่าซุง ในปี พ.ศ. 2332 หลวงพ่อใหญ่ผูกแพข้ามแม่น้ำ (ที่สอง) เดินธุดงค์ ชาวบ้านปักกลดท่าซุงมีศรัทธามากนิมนต์ท่านมาอยู่ที่วัดท่าซุงนี้ วัดนี้มีท่านมาริเริ่มสร้างเสนาสนะให้เจริญรุ่งเรืองเพียงคราวเดียว หลวงพ่อใหญ่ ในสมัย ท่านเจ้าคุณพรหมญาณ
ประวัติ ของวัดท่าซุง ต่อ
ท่านเล่าว่า หลวงพ่อใหญ่บรรลุอรหันต์ที่วัดนี้ คือ ท่านเป็นพระอนาคามีเมื่อท่าน ยังมีชีวิตอยู่ ปฏิปทา ก่อนมรณภาพ คือ หลวงพ่อเส็ง (หลวงพ่อ ขนมจีน) เป็นผู้ช่วยหลวงพ่อใหญ่ซ่อมแซมวัดในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นและเป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา พระอรหันต์องค์ที่ 2 รองจากหลวงพ่อใหญ่ หลวงพ่อใหญ่ วัดเจริญ
จากนั้นมาจนถึงสมัยหลวงพ่อเหล็งและหลวงพ่อหลายท่านเป็นพี่น้องกัน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ทั้งสองรูป เขาเสียใจมากเมื่อเขาตาย ท่านเห็นความเจ็บในการเกิดเป็นความเจ็บทางกาย สมเด็จพระบรมศาสดาก่อนที่จะทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ท่านทั้งสอง เป็นพระอรหันต์ก่อนปรินิพพาน ต่อจากนั้นเป็นสมัยภิกขุพานิช จนกระทั่ง พ.ศ. 2511 วัดไม่ได้บูรณะเป็นเวลา 47 ปี เมื่อหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (พระมหาวีระ ถาวโร) ได้ริเริ่มบูรณะวัดอีกครั้ง